เมล็ดพันธุ์ พริกพวง

30 ฿

  • จำนวน 100 เมล็ด
  • ด้วยลักษณะการออกผลเป็นพวงสวยงามและมีสีสันสดใส ทำให้พริกพวงเป็นไม้ประดับที่น่าสนใจ สามารถปลูกในกระถางหรือลงแปลงจัดสวน
  • เช่นเดียวกับพริกชนิดอื่นๆ พริกพวงมีสารแคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ลดการอักเสบ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยในการย่อยอาหาร และอาจมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
  • เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ให้รสเผ็ดร้อนในอาหารไทย เช่น แกงเผ็ด ผัดเผ็ด น้ำพริกต่างๆ หรือใช้ตกแต่งจานอาหารให้สวยงาม
  • มีวิตามินซีสูง รวมถึงวิตามินเอ และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

เมล็ดพันธุ์ พริกพวง 100 เมล็ด

พริกพวง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Capsicum frutescens) เป็นพริกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเด่นคือ ออกผลเป็นพวงหรือเป็นกลุ่ม ตามข้อและกิ่งก้าน จึงเป็นที่มาของชื่อ “พริกพวง” ผลมีขนาดเล็ก มักมีสีแดงสดเมื่อสุก แต่ก็มีบางสายพันธุ์ที่มีสีเหลือง ส้ม หรือม่วง รสชาติเผ็ดร้อนจัดจ้าน เป็นพริกที่นิยมใช้ในอาหารไทยและอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คุณสมบัติ

  • ลักษณะการออกผล
    • ออกผลเป็นพวงหรือเป็นกลุ่มจำนวนมาก
  • ขนาดผล
    • เล็ก ขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร
  • สีของผล
    • ส่วนใหญ่มีสีแดงสดเมื่อสุก แต่มีบางสายพันธุ์ที่มีสีเหลือง ส้ม หรือม่วง
  • รสชาติ
    • เผ็ดร้อนจัดจ้าน
  • ลำต้น
    • เป็นพุ่มขนาดเล็กถึงกลาง สูงประมาณ 0.5 – 1.5 เมตร
  • การเจริญเติบโต
    • เจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนชื้น ต้องการแสงแดดจัด และดินร่วนระบายน้ำได้ดี
  • ความทนทาน
    • ค่อนข้างทนทานต่อสภาพแวดล้อมและโรคบางชนิด

ประโยชน์ของพริกพวง

  • ใช้ประกอบอาหาร
    • เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ให้รสเผ็ดร้อนในอาหารไทย เช่น แกงเผ็ด ผัดเผ็ด น้ำพริกต่างๆ หรือใช้ตกแต่งจานอาหารให้สวยงาม
  • สรรพคุณทางยา
    • เช่นเดียวกับพริกชนิดอื่นๆ พริกพวงมีสารแคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ลดการอักเสบ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยในการย่อยอาหาร และอาจมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
  • เป็นไม้ประดับ
    • ด้วยลักษณะการออกผลเป็นพวงสวยงามและมีสีสันสดใส ทำให้พริกพวงเป็นไม้ประดับที่น่าสนใจ สามารถปลูกในกระถางหรือลงแปลงจัดสวน
  • แหล่งวิตามินและแร่ธาตุ
    • มีวิตามินซีสูง รวมถึงวิตามินเอ และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

วิธีการปลูก

  • การเตรียมเมล็ด: สามารถใช้เมล็ดพันธุ์พริกพวงที่ซื้อมา หรือเก็บจากผลพริกที่สุกแล้ว นำเมล็ดไปตากแดดให้แห้งสนิท
  • การเพาะกล้า:
    • นำเมล็ดไปแช่น้ำประมาณ 4-6 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการงอก
    • เพาะเมล็ดในวัสดุเพาะ เช่น ดินเพาะกล้าสำเร็จรูป หรือดินร่วนผสมแกลบและปุ๋ยหมักละเอียด
    • กลบเมล็ดบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม และวางในที่ร่มรำไร
    • เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 คู่ สามารถย้ายลงกระถางหรือแปลงปลูกได้
  • การเตรียมดินและแปลงปลูก:
    • เลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
    • ไถพรวนดินให้ร่วนซุย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์
    • ถ้าปลูกในกระถาง ควรเลือกกระถางที่มีขนาดเหมาะสมและมีรูระบายน้ำที่ดี
  • การย้ายกล้า:
    • ขุดหลุมให้มีขนาดใหญ่กว่าตุ้มดินของต้นกล้าเล็กน้อย
    • นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้มิดโคนต้น กดดินเบาๆ และรดน้ำให้ชุ่ม
    • เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-50 เซนติเมตร และระหว่างแถวประมาณ 60-80 เซนติเมตร
  • การดูแลรักษา:
    • การให้น้ำ: รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นยังเล็กและช่วงติดดอกออกผล ระวังอย่าให้น้ำขัง
    • การใส่ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน เช่น ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อบำรุงต้นและผล ควรใส่ปุ๋ยในช่วงก่อนออกดอกและช่วงติดผล
    • การกำจัดวัชพืช: หมั่นกำจัดวัชพืชรอบๆ ต้นพริก เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและเป็นที่อยู่ของแมลงศัตรูพืช
    • การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช: ตรวจสอบต้นพริกอย่างสม่ำเสมอ หากพบแมลงหรือโรค ให้รีบกำจัดด้วยวิธีธรรมชาติ หรือใช้สารเคมีที่ปลอดภัย
    • การตัดแต่งกิ่ง: อาจมีการตัดแต่งกิ่งบ้างเพื่อให้ทรงพุ่มโปร่งและมีการระบายอากาศที่ดี
  • การเก็บเกี่ยว: พริกพวงสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อผลมีสีสันตามสายพันธุ์และเริ่มแข็งแรง โดยสามารถทยอยเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ