เมล็ดพันธุ์ ปีแดง

30 ฿

  • จำนวน 50 เมล็ด
  • มีวิตามินซีเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • สีแดงหรือม่วงแดงของฝักมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ และอาจมีประโยชน์อื่นๆ ต่อสุขภาพ
  • เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ขนาดเล็ก หรือปลูกหมุนเวียน
  • ส่งเสริมระบบขับถ่าย มีใยอาหารสูงช่วยป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก
  • มีวิตามินเคและแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูก

เมล็ดพันธุ์ ปีแดง 50 เมล็ด

ปีแดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Phaseolus Vulgaris) หรือถั่วพุ่มแดง มีลักษณะการเจริญเติบโตเป็นทรงพุ่ม (ไม่เลื้อย) และมีฝักเป็นสีแดงสดหรือม่วงแดง แทนที่จะเป็นสีเขียวเหมือนถั่วแขกทั่วไป ถั่วชนิดนี้เป็นที่นิยมปลูกเพื่อบริโภคฝักสด และด้วยสีสันที่สวยงาม ทำให้เป็นที่น่าสนใจในการปลูกประดับสวนครัวด้วยเช่นกัน อาจมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น

คุณสมบัติ

  • ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:
    • เป็นพืชล้มลุก อายุสั้น ประมาณ 45-75 วัน
    • มีลักษณะการเจริญเติบโตเป็นทรงพุ่ม ไม่ต้องการค้างหรือร้าน
    • ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้าน
    • ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ รูปไข่
    • ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบ มีสีขาว ชมพู หรือม่วงอ่อน
    • ฝักมีลักษณะทรงกระบอกหรือแบนเล็กน้อย ผิวเรียบ มีสีแดงสดหรือม่วงแดง ความยาวของฝักแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์
    • เมล็ดมีรูปร่างและสีสันหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
  • คุณค่าทางโภชนาการ: โดยทั่วไปแล้วถั่วพุ่มที่มีฝักสีแดงจะมีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับถั่วแขกทั่วไป คือเป็นแหล่งของ:
    • วิตามิน: วิตามินซี, วิตามินเค, วิตามินบีต่างๆ (เช่น โฟเลต)
    • แร่ธาตุ: โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, เหล็ก, แคลเซียม
    • ใยอาหาร: ช่วยในระบบขับถ่าย
    • โปรตีน: มีโปรตีนในปริมาณที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับผักชนิดอื่นๆ
    • สารต้านอนุมูลอิสระ: สีแดงหรือม่วงแดงของฝักบ่งบอกถึงการมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพสูง
  • รสชาติและเนื้อสัมผัส: รสชาติและเนื้อสัมผัสของถั่วพุ่มที่มีฝักสีแดงจะคล้ายกับถั่วแขกทั่วไป คือมีความกรอบ หวานเล็กน้อย และเนื้อแน่น

ประโยชน์ของปีแดง

  • ด้านสุขภาพ:
    • ส่งเสริมระบบขับถ่าย: ใยอาหารสูงช่วยป้องกันและบรรเทาอาการท้องผูก
    • บำรุงกระดูก: มีวิตามินเคและแคลเซียม
    • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: มีวิตามินซี
    • ดีต่อหญิงตั้งครรภ์: มีโฟเลตสูง ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์
    • สารต้านอนุมูลอิสระสูง: สีแดงหรือม่วงแดงของฝักมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ และอาจมีประโยชน์อื่นๆ ต่อสุขภาพ
  • ด้านการเกษตร:
    • เป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตภายในระยะเวลาสั้น
    • ไม่ต้องการค้างหรือร้าน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและแรงงานในการทำค้าง
    • เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ขนาดเล็ก หรือปลูกหมุนเวียน
    • มีความสวยงามของฝัก ทำให้เป็นที่นิยมปลูกเพื่อความสวยงามควบคู่ไปกับการบริโภค
  • ด้านอาหาร:
    • ใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ผัด ลวก จิ้มน้ำพริก ใส่ในสลัด
    • สีสันที่สวยงามทำให้เมนูอาหารดูน่าสนใจและเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ

วิธีการปลูก

  • การเตรียมดิน:

    • เลือกพื้นที่ปลูกที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
    • ดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง
    • ไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร กำจัดวัชพืช
    • ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
  • การเตรียมเมล็ด:

    • เลือกเมล็ดพันธุ์ถั่วพุ่มที่มีฝักสีแดงที่มีคุณภาพดี จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
    • แช่เมล็ดในน้ำสะอาดประมาณ 4-6 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการงอก
  • การปลูก:

    • หยอดเมล็ดโดยตรง: หยอดเมล็ดลงในหลุมลึกประมาณ 2-3 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 15-30 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 40-60 เซนติเมตร หยอดหลุมละ 2-3 เมล็ด กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม
    • การปลูกเป็นแถว: หยอดเมล็ดตามแนวแถว ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวตามที่กล่าวข้างต้น
  • การดูแลรักษา:

    • การให้น้ำ: รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโตและช่วงติดดอกออกฝัก ควรรดน้ำในช่วงเช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงการรดน้ำในช่วงที่มีแดดจัด
    • การใส่ปุ๋ย: โดยทั่วไปถั่วพุ่มไม่ต้องการปุ๋ยมากนัก หากดินไม่ดีอาจใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (เช่น 15-15-15) ในปริมาณเล็กน้อยเมื่อต้นมีอายุประมาณ 2-3 สัปดาห์ และอาจใส่ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูงขึ้นในช่วงออกดอกติดฝัก
    • การพรวนดินและกำจัดวัชพืช: พรวนดินรอบโคนต้นเพื่อกำจัดวัชพืชและช่วยให้ดินร่วนซุย ควรระวังอย่าให้กระทบกระเทือนราก
    • การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชและโรค: หมั่นตรวจแปลงปลูก หากพบศัตรูพืชหรือโรคให้รีบทำการป้องกันและกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสม
  • การเก็บเกี่ยว:

    • ถั่วพุ่มที่มีฝักสีแดงจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 45-75 วันหลังปลูก ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
    • เก็บเกี่ยวเมื่อฝักมีขนาดพอเหมาะ ยังอ่อนและไม่อ้วนจนเกินไป ควรเก็บเกี่ยวอย่างสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นให้มีการออกดอกและติดฝักอย่างต่อเนื่อง

ข้อควรจำ:

  • เลือกสายพันธุ์ถั่วพุ่มที่มีฝักสีแดงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเพื่อให้ได้สีสันและผลผลิตตามต้องการ
  • การดูแลรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและมีสีสันสวยงาม
  • เนื่องจากเป็นถั่วพุ่ม จึงไม่จำเป็นต้องทำค้างหรือร้าน