เมล็ดพันธุ์ ฝักยาวพุ่ม 40 เมล็ด
ฝักยาวพุ่ม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Vigna unguiculata) ลำต้นเป็นพุ่มเตี้ยคล้ายถั่วเขียว เป็นพืชทนแล้ง ปลูกก่อนฤดูฝนหรือปลายฤดูฝน อายุออกดอกประมาณ 45-50 วัน ลักษณะฝักคล้ายถั่วฝักยาว มีปริมาณโปรตีนค่อนข้างสูง เมล็ดและฝักสดนำมาใช้ประกอบอาหารได้ เศษเหลือของถั่วพุ่มนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
คุณสมบัติ
- ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:
- เป็นพืชล้มลุก อายุประมาณ 3-4 เดือน
- มีลักษณะลำต้น กึ่งเลื้อย คืออาจมีการเลื้อยบ้างแต่ไม่ยาวมากนัก หรืออาจมีลักษณะคล้ายพุ่มเตี้ยๆ ที่มีเถาสั้นๆ
- ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ รูปไข่ ปลายแหลม
- ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบ มีสีม่วงอ่อนหรือขาว
- ฝักยาว ลักษณะทรงกระบอก ผิวเรียบ สีเขียว (หรือสีอื่นๆ ตามสายพันธุ์) ความยาวอาจไม่ยาวเท่าถั่วฝักยาวเลื้อยทั่วไป
- เมล็ดรูปไต ขนาดเล็ก สีต่างๆ กัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
- คุณค่าทางโภชนาการ: โดยทั่วไปแล้วจะมีคุณค่าทางโภชนาการใกล้เคียงกับถั่วฝักยาวเขียว คือเป็นแหล่งของ:
- วิตามิน (วิตามินซี, วิตามินเอ, วิตามินเค, วิตามินบีต่างๆ)
- แร่ธาตุ (โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, เหล็ก, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส)
- ใยอาหาร
- โปรตีน
- สารต้านอนุมูลอิสระ
- รสชาติและเนื้อสัมผัส: รสชาติและเนื้อสัมผัสจะคล้ายกับถั่วฝักยาวทั่วไป คือมีรสหวานเล็กน้อย กรอบ และเนื้อแน่น
ประโยชน์ของฝักยาวพุ่ม
- ด้านสุขภาพ:
- ส่งเสริมระบบขับถ่าย
- บำรุงสายตา
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- บำรุงกระดูกและฟัน
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- บำรุงโลหิต
- ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
- ดีต่อหญิงตั้งครรภ์ (มีโฟเลต)
- ด้านการเกษตร:
- ปลูกง่าย เจริญเติบโตค่อนข้างเร็ว ให้ผลผลิต
- อาจต้องการค้างเตี้ยๆ หรือไม่ต้องการค้างเลย ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ทำให้สะดวกในการจัดการ
- สามารถปลูกได้ในดินหลายชนิด
- ช่วยปรับปรุงดิน (เช่นเดียวกับถั่วชนิดอื่นๆ)
- ด้านอาหาร:
- ใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูเช่นเดียวกับถั่วฝักยาวทั่วไป
วิธีการปลูก
-
การเตรียมดิน:
- เลือกพื้นที่ปลูกที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ ดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอินทรียวัตถุสูง
- ไถพรวนดิน ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- ยกแปลงปลูก (ถ้าจำเป็น)
-
การเตรียมเมล็ด:
- เลือกเมล็ดพันธุ์ “ฝักยาวพุ่ม” ที่มีคุณภาพดี
- แช่เมล็ดในน้ำสะอาดประมาณ 6-8 ชั่วโมง แล้วผึ่งลมให้หมาด
-
การปลูก:
- หยอดเมล็ดโดยตรง: หยอดเมล็ดลงในหลุมลึก 2-3 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 30-50 เซนติเมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 60-80 เซนติเมตร หยอดหลุมละ 2-3 เมล็ด กลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม
- อาจไม่จำเป็นต้องทำค้าง: หากสายพันธุ์มีลักษณะเป็นพุ่มเตี้ยๆ หรือเลื้อยสั้นมาก อาจไม่จำเป็นต้องทำค้าง แต่หากมีการเลื้อยบ้าง ควรทำค้างเตี้ยๆ หรือใช้ไม้ปักเพื่อให้เถาเกาะพยุงเล็กน้อย
-
การดูแลรักษา:
- การให้น้ำ: รดน้ำสม่ำเสมอ
- การใส่ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยตามความเหมาะสม
- การพรวนดินและกำจัดวัชพืช: พรวนดินรอบโคนต้นและกำจัดวัชพืช
- การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชและโรค: ดูแลและป้องกันตามความเหมาะสม
-
การเก็บเกี่ยว:
- เริ่มเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 45-60 วันหลังปลูก เมื่อฝักมีขนาดพอเหมาะ
ข้อควรจำ:
- ตรวจสอบลักษณะของสายพันธุ์: สิ่งสำคัญที่สุดคือการตรวจสอบลักษณะการเจริญเติบโตของสายพันธุ์ “ฝักยาวพุ่ม” ที่คุณต้องการปลูก ว่ามีการเลื้อยมากน้อยเพียงใด เพื่อวางแผนการปลูกและการทำค้างได้อย่างเหมาะสม