เมล็ดพันธุ์ มะเขือเทศต้นเตี้ย

30 ฿

  • จำนวน 30 เมล็ด
  • มีไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  • วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระในมะเขือเทศช่วยให้ผิวพรรณสดใส ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย
  • มีใยอาหารช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก

เมล็ดพันธุ์ มะเขือเทศต้นเตี้ย 30 เมล็ด

มะเขือเทศต้นเตี้ย (ชื่อวิทยาศาสตร์: Solanum lycopersicum) เป็นมะเขือเทศที่มีลักษณะเด่นคือมีลำต้นเตี้ย ไม่สูงเหมือนมะเขือเทศชนิดเลื้อยอื่นๆ โดยทั่วไปจะมีความสูงประมาณ 30-90 เซนติเมตร มีทรงพุ่มกะทัดรัด ทำให้เหมาะสำหรับการปลูกในพื้นที่จำกัด เช่น กระถาง หรือแปลงขนาดเล็ก มะเขือเทศต้นเตี้ยมีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกปลูก ซึ่งมีขนาดผล รูปร่าง และสีสันแตกต่างกันไป

คุณสมบัติ

  • ลำต้นเตี้ย
    • มีความสูงของลำต้นจำกัด ไม่ต้องทำค้างหรือพยุงมากนัก
  • ทรงพุ่มกะทัดรัด
    • มีทรงพุ่มที่แน่นและไม่แผ่กว้างมากนัก เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด
  • หลากหลายสายพันธุ์
    • มีหลายสายพันธุ์ให้เลือก ซึ่งมีขนาดผล รูปร่าง และสีสันแตกต่างกัน
  • ให้ผลผลิตเร็ว
    • หลายสายพันธุ์ให้ผลผลิตเร็วกว่ามะเขือเทศชนิดเลื้อย
  • ดูแลรักษาง่าย
    • เนื่องจากมีขนาดเล็กและไม่ต้องทำค้าง ทำให้ดูแลรักษาง่ายกว่า
  • เหมาะสำหรับปลูกในกระถาง
    • ด้วยขนาดทรงพุ่มที่กะทัดรัด ทำให้ปลูกในกระถางได้ดี

ประโยชน์ของมะเขือเทศต้นเตี้ย

  • แหล่งของวิตามิน
    • มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา และวิตามินเคช่วยในการแข็งตัวของเลือด
  • สารต้านอนุมูลอิสระ
    • มีไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • บำรุงผิวพรรณ
    • วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระในมะเขือเทศช่วยให้ผิวพรรณสดใส ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย
  • ดีต่อสุขภาพหัวใจ
    • โพแทสเซียมในมะเขือเทศช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต และใยอาหารช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
  • ช่วยในการขับถ่าย
    • มีใยอาหารช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก
  • มีแคลอรี่ต่ำ
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

วิธีการปลูก

  • การเพาะเมล็ด
    • เตรียมดินเพาะกล้า เลือกดินร่วน ระบายน้ำได้ดี อาจผสมปุ๋ยหมักเล็กน้อย
    • หว่านเมล็ดมะเขือเทศต้นเตี้ยลงในดิน กลบดินบางๆ
    • รดน้ำให้ชุ่ม วางในที่ร่มรำไรจนเมล็ดงอก
    • เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ ให้ย้ายลงกระถางเล็ก หรือถาดหลุมเพื่อเลี้ยงให้แข็งแรง
  • การเตรียมดินและสถานที่ปลูก
    • เลือกสถานที่ปลูกที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
    • เตรียมดินปลูกให้ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดเหมาะสม
    • ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในดินปลูกเพื่อเพิ่มธาตุอาหาร
    • หากปลูกในกระถาง ควรเลือกกระถางที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 30 เซนติเมตร
  • การย้ายกล้า
    • เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือมีความสูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร และมีใบจริง 4-6 ใบ ให้ย้ายลงแปลงหรือกระถางที่เตรียมไว้
    • เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 45-60 เซนติเมตร และระหว่างแถวประมาณ 60-90 เซนติเมตร
  • การดูแลรักษา
    • การรดน้ำ: รดน้ำสม่ำเสมอ วันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเช้าหรือเย็น รดบริเวณโคนต้น หลีกเลี่ยงการรดน้ำโดนใบโดยตรง
    • การให้ปุ๋ย: ให้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน เช่น ปุ๋ยสูตรเสมอ หรือปุ๋ยอินทรีย์ ทุก 3-4 สัปดาห์ เมื่อเริ่มติดผล ให้เพิ่มปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูงเพื่อช่วยให้ผลมีคุณภาพดี
    • การพยุงต้น: แม้ว่าจะเป็นมะเขือเทศต้นเตี้ย แต่บางสายพันธุ์ที่มีผลดกอาจต้องการการพยุงบ้างเล็กน้อย เพื่อป้องกันกิ่งหักจากน้ำหนักผล อาจใช้ไม้ค้ำขนาดเล็ก
    • การเด็ดยอด: โดยทั่วไปแล้ว มะเขือเทศต้นเตี้ยไม่จำเป็นต้องเด็ดยอดมากนัก แต่การตัดแต่งกิ่งที่แห้งหรือเป็นโรคจะช่วยให้ต้นแข็งแรงขึ้น
    • การป้องกันและกำจัดโรคแมลง: ตรวจสอบต้นอย่างสม่ำเสมอ หากพบโรคหรือแมลงให้รีบกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การใช้สารชีวภัณฑ์ หรือสารเคมีที่ปลอดภัย
  • การเก็บเกี่ยว
    • มะเขือเทศต้นเตี้ยจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากย้ายปลูกประมาณ 50-70 วัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และการดูแล
    • เก็บเกี่ยวผลที่สุกเต็มที่ ซึ่งจะมีสีสันสดใส ผิวเต่งตึง และเมื่อสัมผัสจะรู้สึกนิ่มเล็กน้อย