เมล็ดพันธุ์ มะเขือเทศตลับ 50 เมล็ด
มะเขือเทศตลับ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Solanum lycopersicum) เป็นมะเขือเทศที่มีลักษณะผลเป็นทรงรีคล้ายรูปไข่ หรือทรงกระบอกมน มีขนาดปานกลาง เนื้อค่อนข้างแน่น มีเมล็ดน้อย และมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นที่นิยมนำมาใช้ในการแปรรูป เช่น ทำซอสมะเขือเทศ มะเขือเทศกระป๋อง หรือนำไปประกอบอาหารที่ต้องการเนื้อมะเขือเทศเยอะๆ
คุณสมบัติ
- รูปทรงรี
- มีลักษณะผลเป็นทรงรีคล้ายรูปไข่ หรือทรงกระบอกมน
- ขนาดปานกลาง
- ผลมีขนาดปานกลาง ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป
- เนื้อแน่น
- มีเนื้อค่อนข้างแน่น มีน้ำน้อยกว่ามะเขือเทศชนิดอื่นๆ
- เมล็ดน้อย
- มีปริมาณเมล็ดน้อย ทำให้สะดวกในการนำไปประกอบอาหาร
- รสชาติหวานอมเปรี้ยว
- มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน
- สีแดงสด
- เมื่อสุกเต็มที่จะมีสีแดงสดใส
- เหมาะสำหรับการแปรรูป
- ด้วยเนื้อที่แน่นและมีเมล็ดน้อย ทำให้เหมาะสำหรับการนำไปทำซอส เพสต์ หรือมะเขือเทศกระป๋อง
ประโยชน์ของมะเขือเทศตลับ
- แหล่งของวิตามิน
- มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา และวิตามินเคช่วยในการแข็งตัวของเลือด
- สารต้านอนุมูลอิสระ
- มีไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก
- บำรุงผิวพรรณ
- วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระในมะเขือเทศช่วยให้ผิวพรรณสดใส ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย
- ดีต่อสุขภาพหัวใจ
- โพแทสเซียมในมะเขือเทศช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต และใยอาหารช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
- ช่วยในการขับถ่าย
- มีใยอาหารช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก
- มีแคลอรี่ต่ำ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
วิธีการปลูก
- การเพาะเมล็ด
- เตรียมดินเพาะกล้า เลือกดินร่วน ระบายน้ำได้ดี อาจผสมปุ๋ยหมักเล็กน้อย
- หว่านเมล็ดมะเขือเทศตลับลงในดิน กลบดินบางๆ
- รดน้ำให้ชุ่ม วางในที่ร่มรำไรจนเมล็ดงอก
- เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ ให้ย้ายลงกระถางเล็ก หรือถาดหลุมเพื่อเลี้ยงให้แข็งแรง
- การเตรียมดินและสถานที่ปลูก
- เลือกสถานที่ปลูกที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- เตรียมดินปลูกให้ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดเหมาะสม
- ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงในดินปลูกเพื่อเพิ่มธาตุอาหาร
- การย้ายกล้า
- เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือมีความสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร และมีใบจริง 4-6 ใบ ให้ย้ายลงแปลงหรือกระถางที่เตรียมไว้
- เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 45-60 เซนติเมตร และระหว่างแถวประมาณ 75-90 เซนติเมตร
- การดูแลรักษา
- การรดน้ำ: รดน้ำสม่ำเสมอ วันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเช้าหรือเย็น รดบริเวณโคนต้น หลีกเลี่ยงการรดน้ำโดนใบโดยตรง
- การให้ปุ๋ย: ให้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน เช่น ปุ๋ยสูตรเสมอ หรือปุ๋ยอินทรีย์ ทุก 3-4 สัปดาห์ เมื่อเริ่มติดผล ให้เพิ่มปุ๋ยที่มีโพแทสเซียมสูงเพื่อช่วยให้ผลมีคุณภาพดี
- การทำค้าง: แม้ว่ามะเขือเทศตลับบางสายพันธุ์จะมีทรงพุ่มที่ไม่สูงมาก แต่การทำค้างจะช่วยพยุงลำต้นและผล โดยเฉพาะเมื่อมีผลดก
- การเด็ดยอด: เด็ดยอดแขนงที่งอกออกมาจากลำต้นหลัก เพื่อให้ต้นเน้นการเจริญเติบโตของผล และช่วยให้ทรงพุ่มโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี ลดความเสี่ยงของการเกิดโรค
- การป้องกันและกำจัดโรคแมลง: ตรวจสอบต้นอย่างสม่ำเสมอ หากพบโรคหรือแมลงให้รีบกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การใช้สารชีวภัณฑ์ หรือสารเคมีที่ปลอดภัย
- การเก็บเกี่ยว
- มะเขือเทศตลับจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากย้ายปลูกประมาณ 70-80 วัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และการดูแล
- เก็บเกี่ยวผลที่สุกเต็มที่ ซึ่งจะมีสีแดงสด ผิวเต่งตึง และเมื่อสัมผัสจะรู้สึกนิ่มเล็กน้อย