เมล็ดพันธุ์ Reine De Glaces 150 เมล็ด
Reine De Glaces (ชื่อวิทยาศาสตร์: Lactuca sativa) ชื่อของมันแปลว่า “ราชินีแห่งน้ำแข็ง” เป็นพันธุ์ผักสลัดที่มีความนิยมในหลายประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีอากาศเย็นในช่วงฤดูหนาว ชื่อของพันธุ์นี้มาจากลักษณะเฉพาะของผักที่มีใบสีเขียวอ่อนและมันวาวคล้ายกับน้ำแข็ง ทำให้เป็นที่ชื่นชอบในด้านความสวยงามและคุณสมบัติที่ดีในการเติบโตในฤดูหนาว มีลักษณะใบกลมใหญ่ สีเขียวอ่อน และมีความกรอบ โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะทำให้ใบมีลักษณะมันวาวเหมือนน้ำแข็ง พันธุ์นี้เหมาะสำหรับการปลูกในฤดูหนาว เพราะทนทานต่อความเย็นและเจริญเติบโตได้ดีในอากาศเย็น
คุณสมบัติ
- ลักษณะทางกายภาพ
- มีใบที่เป็นรูปทรงกลม เส้นใยใบค่อนข้างกรอบและเนื้อใบมีลักษณะมันวาว ซึ่งสะท้อนแสงเหมือนน้ำแข็ง สีของใบจะเขียวอ่อนเมื่อเติบโตเต็มที่
- การทนทาน
- พันธุ์นี้ทนทานต่ออุณหภูมิที่เย็นได้ดีและสามารถเติบโตในช่วงอากาศหนาวจัด
- การเจริญเติบโต
- การเจริญเติบโตจะค่อนข้างช้าในช่วงฤดูหนาว แต่มีรสชาติที่หวานกรอบ ซึ่งเป็นที่นิยมในการทำสลัดหรือใช้ในอาหารอื่น ๆ
ประโยชน์ของ Reine De Glaces
- ทางโภชนาการ
- Reine De Glaces มีวิตามิน A, C และ K รวมถึงแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียมและเหล็ก ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และบำรุงกระดูก
- รสชาติ
- ใบของ Reine De Glaces มีรสชาติหวานและกรอบ ทำให้เป็นที่นิยมในการนำมาทำสลัดหรือใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูต่าง ๆ
- เหมาะสำหรับการปลูกในฤดูหนาว
- พันธุ์นี้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการปลูกในช่วงฤดูหนาวในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น เพราะสามารถทนต่ออุณหภูมิที่ต่ำได้ดี
- ช่วยในการตกแต่งสวน
- ด้วยใบที่มีลักษณะมันวาวและสีสันสวยงาม มักนำมาใช้ในการตกแต่งสวนหรือปลูกในกระถางเพื่อประดับบ้าน
วิธีการปลูก
- เลือกพื้นที่
- ควรเลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดเต็มที่ เนื่องจาก Reine De Glaces ต้องการแสงเพื่อการเจริญเติบโตที่ดี แต่สามารถทนร่มเงาบางส่วนได้
- ดิน
- ควรปลูกในดินที่มีความร่วนซุยและมีการระบายน้ำดี ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ของดินควรอยู่ระหว่าง 6-7
- การปลูก
- หยอดเมล็ดลงในแปลงปลูกหรือในกระถาง ปลูกในระยะห่างประมาณ 20-25 เซนติเมตร เพื่อให้ต้นมีพื้นที่ในการเติบโต
- การดูแลรักษา
- รดน้ำให้ชุ่มในช่วงเช้าหรือเย็น อย่ารดน้ำในช่วงกลางวันเพื่อลดโอกาสการเกิดโรคพืช ควรรักษาความชื้นในดินแต่ไม่ให้ดินน้ำขัง
- การเก็บเกี่ยว
- Reine De Glaces จะพร้อมสำหรับการเก็บเกี่ยวในช่วง 50-70 วันหลังจากการปลูก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอุณหภูมิ สามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อต้นโตเต็มที่และใบกรอบ