เมล็ดพันธุ์ Rouge D’hiver

30 ฿

  • จำนวน 200 เมล็ด
  • ใบมีรสชาติหวานและกรอบ เหมาะสำหรับนำมาทำสลัด หรือนำไปใช้ในเมนูอาหารประเภทต่าง ๆ
  • Rouge D’hiver เป็นแหล่งของวิตามิน A, C, K และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และสนับสนุนการเจริญเติบโตของกระดูก
  • ด้วยสีสันที่สวยงามของใบมันจึงเหมาะกับการตกแต่งสวนหรือปลูกในกระถางที่ใช้ในการประดับบ้าน
  • ใบจะมีสีแดงอมม่วง ซึ่งจะเด่นชัดที่สุดในช่วงอากาศเย็น โดยทั่วไปแล้วมักจะมีรสชาติหวานและกรอบ

เมล็ดพันธุ์ Rouge D’hiver 200 เมล็ด

Rough D’hiver (ชื่อวิทยาศาสตร์: Lactuca sativa) เป็นพันธุ์ผักคะน้าที่มีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศส ซึ่งมีลักษณะเป็นผักคะน้าหรือผักกาดหอมที่มีสีแดงอ่อนหรือม่วงอมแดงบนใบและก้านที่มีรสชาติหวานกรอบ โดยที่ “Rouge D’hiver” แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Red Winter” ซึ่งบ่งบอกถึงฤดูกาลที่เหมาะสมในการปลูกพันธุ์นี้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว มีกลิ่นหอมและสีสันโดดเด่น ซึ่งมักจะปลูกในฤดูหนาวในภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น พันธุ์นี้มีทั้งประโยชน์ด้านอาหารและความสวยงามในการตกแต่งสวน เนื่องจากสีสันที่สวยงามและลักษณะการเจริญเติบโตที่น่าสนใจ

คุณสมบัติ

  • ลักษณะทางกายภาพ

    • ใบจะมีสีแดงอมม่วง ซึ่งจะเด่นชัดที่สุดในช่วงอากาศเย็น โดยทั่วไปแล้วมักจะมีรสชาติหวานและกรอบ

  • การเจริญเติบโต

    • ค่อนข้างทนทานต่อสภาพอากาศหนาวเย็นและสามารถทนความหนาวได้ดีกว่าพันธุ์อื่น ๆ

  • การเจริญเติบโตในฤดูหนาว

    • การเจริญเติบโตช้าในอุณหภูมิที่ต่ำจึงเหมาะกับการปลูกในช่วงฤดูหนาว

ประโยชน์ของ Rouge D’hiver

  • ทางโภชนาการ

    • Rouge D’hiver เป็นแหล่งของวิตามิน A, C, K และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และสนับสนุนการเจริญเติบโตของกระดูก

  • รสชาติ

    • ใบมีรสชาติหวานและกรอบ เหมาะสำหรับนำมาทำสลัด หรือนำไปใช้ในเมนูอาหารประเภทต่าง ๆ

  • ช่วยในการตกแต่ง

    • ด้วยสีสันที่สวยงามของใบมันจึงเหมาะกับการตกแต่งสวนหรือปลูกในกระถางที่ใช้ในการประดับบ้าน

วิธีการปลูก

  • เลือกพื้นที่

    • Rouge D’hiver ต้องการแสงแดดเต็มที่ เพื่อให้การเจริญเติบโตดีที่สุด ควรเลือกพื้นที่ที่มีการระบายน้ำดี

  • ดิน

    • ควรปลูกในดินที่มีความร่วนซุยและมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) อยู่ในช่วง 6-7

  • การปลูก

    • ปลูกโดยการหยอดเมล็ดลงในแปลงปลูกหรือกระถาง แล้วทับด้วยดินบาง ๆ เมล็ดควรห่างกันประมาณ 20-30 เซนติเมตร เพื่อให้ต้นมีพื้นที่ในการเจริญเติบโต

  • การดูแลรักษา

    • ควรรดน้ำให้ชุ่มทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อน แต่ต้องระวังไม่ให้มีน้ำขังในดิน

  • การเก็บเกี่ยว

    • สามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 60-90 วันหลังจากปลูก ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและสภาพการเจริญเติบโต