เมล็ดพันธุ์ ผักปลังแดงม่วง 60 เมล็ด
ผักปลังแดงม่วง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Basella rubra L.) หรือที่บางครั้งเรียกว่า “ผักปลังม่วง” หรือ “ผักปลังแห้ง” เป็นพืชที่มีลักษณะคล้ายผักปลังทั่วไป แต่ใบและลำต้นมีสีม่วงแดง ซึ่งทำให้มันแตกต่างจากผักปลังสีเขียวชนิดอื่น ๆ โดยผักปลังแดงม่วงมักมีรสชาติที่เข้มข้นและใบที่หนากว่า ผักชนิดนี้พบมากในพื้นที่เขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คุณสมบัติ
- สีและรสชาติ
- ผักปลังแดงม่วงมีสีม่วงแดงที่สดใสและรสชาติที่เข้มข้นกว่าผักปลังชนิดอื่น
- สารอาหาร
- อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น วิตามิน A, C, ธาตุเหล็ก และแคลเซียม
- ไฟเบอร์
- มีเส้นใยอาหารสูง ช่วยในเรื่องของการย่อยอาหาร
- สารต้านอนุมูลอิสระ
- เนื่องจากสีม่วงแดงในผักนั้นมาจากสารแอนโธไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย
ประโยชน์ของผักปลังแดงม่วง
- บำรุงสายตา
- มีวิตามิน A ที่ช่วยบำรุงสายตาและป้องกันการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- วิตามิน C ในผักปลังแดงม่วงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ช่วยการย่อยอาหาร
- เนื่องจากมีไฟเบอร์สูง ช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
- สารแอนโธไซยานินในผักสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ต้านการอักเสบ
- ผักปลังแดงม่วงมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ช่วยลดการเกิดอาการอักเสบในร่างกาย
วิธีการปลูก
- เลือกพื้นที่ปลูก
- ผักปลังแดงม่วงชอบแสงแดดเต็มที่และดินที่ระบายน้ำดี ควรเลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- การเตรียมดิน
- ควรเตรียมดินให้ร่วนซุยและมีความเป็นกรด-ด่างที่ 6.0-7.0 โดยสามารถผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน
- การเพาะเมล็ด
- เริ่มจากการเพาะเมล็ดในถาดเพาะ หรือในกระบะเพาะต้นกล้า ใช้ดินร่วนหรือดินผสมเพาะเมล็ดโดยเฉพาะ เมื่อกล้าโตประมาณ 4-6 สัปดาห์ สามารถย้ายปลูกลงในแปลงได้
- การปลูกในแปลง
- การปลูกสามารถปลูกเป็นแถวหรือแบบกระจาย ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-45 เซนติเมตร
- การดูแลรักษา
- ควรให้น้ำสม่ำเสมอ แต่ไม่ให้ดินเปียกแฉะ เพราะจะทำให้รากเน่า สามารถใส่ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยหมักในช่วงที่ต้นโตเพื่อเสริมความแข็งแรง
- การเก็บเกี่ยว
- เมื่อผักปลังแดงม่วงโตเต็มที่และใบมีสีม่วงแดง สามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยใช้กรรไกรตัดหรือดึงใบออกทีละใบ