เมล็ดพันธุ์ มะละกอกะปุ๊กลุก 40 เมล็ด
มะละกอกะปุ๊กลุก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Carica papaya) เป็นมะละกอพันธุ์หนึ่งที่มีลักษณะเด่นคือผลมีขนาดเล็ก รูปทรงกลมป้อมคล้ายลูกปิงปอง จึงเป็นที่มาของชื่อ “กะปุ๊กลุก” มะละกอพันธุ์นี้ได้รับความนิยมเนื่องจากมีรสชาติหวาน เนื้อแน่น และปลูกง่าย
คุณสมบัติ
- ผล: มีขนาดเล็ก รูปทรงกลมป้อม น้ำหนักประมาณ 300-500 กรัมต่อผล
- เนื้อ: เนื้อสีส้มแดง เนื้อแน่น รสชาติหวาน
- ต้น: ต้นเตี้ย ออกผลดก
- การปลูก: ปลูกง่าย ทนทานต่อโรคและแมลง
ประโยชน์ของมะละกอกะปุ๊กลุก
- รับประทานผลสด: มีรสชาติหวานอร่อย นิยมรับประทานเป็นผลไม้สด
- ประกอบอาหาร: ใช้ทำส้มตำ หรือประกอบอาหารอื่นๆ ได้หลากหลาย
- คุณค่าทางโภชนาการ: มะละกอมีวิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น วิตามินเอ วิตามินซี โพแทสเซียม และไฟเบอร์
- ประโยชน์ทางยา: มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ และมีเอนไซม์ปาเปนช่วยในการย่อยอาหาร
วิธีการปลูก
- การเตรียมดิน:
- มะละกอชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี
- ควรเตรียมดินโดยไถพรวน และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- การเพาะเมล็ด:
- สามารถเพาะเมล็ดในถุงเพาะ หรือแปลงเพาะ
- เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 1-2 เดือน จึงย้ายลงปลูกในแปลง
- การปลูก:
- ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดพอเหมาะกับต้นกล้า
- ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 2-3 เมตร
- รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- นำต้นกล้าลงปลูก และกลบดินให้แน่น
- การดูแลรักษา:
- รดน้ำให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการปลูก
- ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น และปุ๋ยเร่งผล
- กำจัดวัชพืช และป้องกันโรคและแมลง
- เมื่อมะละกออายุ3เดือนรากจะลอยมาเหนือพื้นดิน เรียกรากอากาศห้ามเอาดินหรือมูลสัตว์ไปกลบรากเด็ดขาด มะละกอจะหยุดออกลูกทันที สิ่งที่ไปวางตามรากอากาศมะละกอได้คือลูกมะละกอที่เราเด็ดทิ้งพวกลูกเบี้ยวๆลูกที่ดกเกินไป ยิ่งวางทับรากอากาศลูกยิ่งดก
- การเก็บเกี่ยว:
- มะละกอกะปุ๊กลุกจะเริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุประมาณ 6-8 เดือน
- สามารถเก็บเกี่ยวผลเมื่อผลเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองส้ม