เมล็ดพันธุ์ มะละกอกะปุ๊กลุก

30 ฿

  • จำนวน 40 เมล็ด
  • ปลูกง่าย ทนทานต่อโรคและแมลง
  • มีรสชาติหวานอร่อย นิยมรับประทานเป็นผลไม้สด
  • มีวิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น วิตามินเอ วิตามินซี โพแทสเซียม และไฟเบอร์
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ และมีเอนไซม์ปาเปนช่วยในการย่อยอาหาร

เมล็ดพันธุ์ มะละกอกะปุ๊กลุก 40 เมล็ด

มะละกอกะปุ๊กลุก (ชื่อวิทยาศาสตร์: Carica papaya) เป็นมะละกอพันธุ์หนึ่งที่มีลักษณะเด่นคือผลมีขนาดเล็ก รูปทรงกลมป้อมคล้ายลูกปิงปอง จึงเป็นที่มาของชื่อ “กะปุ๊กลุก” มะละกอพันธุ์นี้ได้รับความนิยมเนื่องจากมีรสชาติหวาน เนื้อแน่น และปลูกง่าย

คุณสมบัติ

  • ผล: มีขนาดเล็ก รูปทรงกลมป้อม น้ำหนักประมาณ 300-500 กรัมต่อผล
  • เนื้อ: เนื้อสีส้มแดง เนื้อแน่น รสชาติหวาน
  • ต้น: ต้นเตี้ย ออกผลดก
  • การปลูก: ปลูกง่าย ทนทานต่อโรคและแมลง

ประโยชน์ของมะละกอกะปุ๊กลุก

  • รับประทานผลสด: มีรสชาติหวานอร่อย นิยมรับประทานเป็นผลไม้สด
  • ประกอบอาหาร: ใช้ทำส้มตำ หรือประกอบอาหารอื่นๆ ได้หลากหลาย
  • คุณค่าทางโภชนาการ: มะละกอมีวิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น วิตามินเอ วิตามินซี โพแทสเซียม และไฟเบอร์
  • ประโยชน์ทางยา: มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ และมีเอนไซม์ปาเปนช่วยในการย่อยอาหาร

วิธีการปลูก

  • การเตรียมดิน:
    • มะละกอชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี
    • ควรเตรียมดินโดยไถพรวน และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
  • การเพาะเมล็ด:
    • สามารถเพาะเมล็ดในถุงเพาะ หรือแปลงเพาะ
    • เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 1-2 เดือน จึงย้ายลงปลูกในแปลง
  • การปลูก:
    • ขุดหลุมปลูกให้มีขนาดพอเหมาะกับต้นกล้า
    • ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 2-3 เมตร
    • รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
    • นำต้นกล้าลงปลูก และกลบดินให้แน่น
  • การดูแลรักษา:
    • รดน้ำให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการปลูก
    • ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น และปุ๋ยเร่งผล
    • กำจัดวัชพืช และป้องกันโรคและแมลง
    • เมื่อมะละกออายุ3เดือนรากจะลอยมาเหนือพื้นดิน เรียกรากอากาศห้ามเอาดินหรือมูลสัตว์ไปกลบรากเด็ดขาด มะละกอจะหยุดออกลูกทันที สิ่งที่ไปวางตามรากอากาศมะละกอได้คือลูกมะละกอที่เราเด็ดทิ้งพวกลูกเบี้ยวๆลูกที่ดกเกินไป ยิ่งวางทับรากอากาศลูกยิ่งดก   
  • การเก็บเกี่ยว:
    • มะละกอกะปุ๊กลุกจะเริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุประมาณ 6-8 เดือน
    • สามารถเก็บเกี่ยวผลเมื่อผลเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองส้ม