เมล็ดพันธุ์ ดอกทองอุไร

30 ฿

  • จำนวน 40 เมล็ด
  • ทนแล้งและเติบโตได้ดีในดินเกือบทุกชนิด
  • ออกดอกตลอดปี แต่จะบานมากในช่วงฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว
  • ใบมีฤทธิ์ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ใช้ในตำรับยาแผนโบราณ
  • ใช้เป็นพืชคลุมดิน ป้องกันการชะล้างของหน้าดิน

เมล็ดพันธุ์ ดอกทองอุไร จำนวน 40 เมล็ด

ดอกทองอุไร (ชื่อวิทยาศาสตร์: Tecoma stans) เป็นไม้พุ่มขนาดกลางถึงใหญ่ อยู่ในวงศ์ Bignoniaceae มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของอเมริกาใต้และอเมริกากลาง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับเนื่องจากมีดอกสีเหลืองสดใส ออกดอกเป็นช่อสวยงามตลอดทั้งปี

คุณสมบัติ

  • เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 2-5 เมตร

  • ใบเป็นใบประกอบ ขอบใบหยัก มีสีเขียวเข้ม

  • ดอกสีเหลืองสด รูปทรงคล้ายระฆัง ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง

  • ออกดอกตลอดปี แต่จะบานมากในช่วงฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว

  • ทนแล้งและเติบโตได้ดีในดินเกือบทุกชนิด

ประโยชน์ของดอกทองอุไร

  • ด้านความสวยงาม

    • นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในสวน ริมทางเดิน หรือเป็นแนวรั้ว

    • ดอกสีเหลืองสดใสช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่ปลูก

  • ด้านสิ่งแวดล้อม

    • ช่วยดูดซับฝุ่นละอองและมลพิษในอากาศ

    • ให้ร่มเงาและช่วยลดอุณหภูมิในบริเวณที่ปลูก

  • ด้านสมุนไพร

    • ใบมีฤทธิ์ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ใช้ในตำรับยาแผนโบราณ

    • เปลือกต้นใช้รักษาอาการท้องเสียและแก้ไอ

    • มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านอนุมูลอิสระ

  • ด้านนิเวศวิทยา

    • เป็นแหล่งอาหารของผึ้ง ผีเสื้อ และนกบางชนิด

    • ใช้เป็นพืชคลุมดิน ป้องกันการชะล้างของหน้าดิน

วิธีการปลูก

  • เตรียมดิน

    • ใช้ดินร่วนซุย หรือดินปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี

    • สามารถเติบโตได้ในดินที่มีความเป็นกรดหรือด่างเล็กน้อย

  • การขยายพันธุ์

    • ใช้เมล็ดเพาะต้นกล้า หรือปักชำกิ่ง

    • การเพาะเมล็ดใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ในการงอก

  • การปลูก

    • หากปลูกลงดิน ควรเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร

    • หากปลูกในกระถาง ควรใช้กระถางขนาดใหญ่

  • การดูแล

    • รดน้ำวันละครั้ง แต่หลีกเลี่ยงน้ำขัง

    • ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เดือนละครั้ง

    • ตัดแต่งกิ่งที่แห้งหรือไม่สมบูรณ์เพื่อกระตุ้นการแตกยอดใหม่

  • การเก็บเกี่ยว

    • หากใช้เป็นสมุนไพร ควรเก็บใบและเปลือกต้นในช่วงที่ต้นเจริญเติบโตเต็มที่

    • สามารถนำใบไปตากแห้งและบดเป็นผงเพื่อใช้ชงชา