มูลค้างคาว อัดเม็ด 1 ลิตร

Original price was: 45 ฿.Current price is: 40 ฿.

  • มูลค้างคาว อัดเม็ด พร้อมใช้งาน
  • ไม่ต้องหมัก เพราะผ่านกระบวนการหมักแล้ว
  • ไม่มีความร้อน ไม่ทำให้พืชผักใบเหลือง หรือ แห้งเหี่ยว
  • มีธาตุอาหารหลักสูงมาก
  • ละลายช้า แบบค่อยเป็นค่อยไป
  • ปลดปล่อยธาตุอาหารทีละน้อย ต่อเนื่อง
  • ขนาด 1 ลิตร / ถุง

100000 in stock

มูลค้างคาว อัดเม็ด 1 ลิตร ใช้งานได้ ปลดปล่อยธาตุอาหารต่อเนื่อง

มูลค้างคาวเกิดจากการย่อยอาหารของค้างคาว

ที่มาของมูลค้างคาว

  1. อาหารที่ค้างคาวกิน
  • แมลงต่างๆ (สำหรับค้างคาวกินแมลง)
  • ผลไม้และน้ำหวานจากดอกไม้ (สำหรับค้างคาวกินผลไม้)
  • น้ำหวานจากเกสรดอกไม้ (สำหรับค้างคาวกินน้ำหวาน)

กระบวนการเกิด

  1. ค้างคาวกินอาหารในเวลากลางคืน
  2. อาหารผ่านกระบวนการย่อยในระบบทางเดินอาหาร
  3. สารอาหารถูกดูดซึมไปใช้
  4. กากอาหารที่เหลือถูกขับถ่ายออกมาเป็นมูล
  5. มูลสะสมตัวตามพื้นถ้ำเป็นเวลานาน
  6. เกิดการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในถ้ำ
  7. แร่ธาตุต่างๆ ถูกเปลี่ยนรูปให้พืชสามารถนำไปใช้ได้

มูลค้างคาวที่นิยมใช้ในการเกษตรแบ่งได้เป็น 3 ชนิดหลักตามลักษณะการแปรรูป

  1. มูลค้างคาวดิบ (มูลสด)
  • เป็นมูลที่เก็บจากถ้ำโดยตรง ยังไม่ผ่านการแปรรูป
  • มีกลิ่นแรง และความชื้นสูง
  • ต้องนำไปตากแห้งก่อนใช้
  • ราคาถูกที่สุด แต่ขนส่งยาก
  1. มูลค้างคาวบด (แบบผง)
  • ผ่านการตากแห้งและบดละเอียด
  • สะดวกในการใช้งาน ละลายน้ำง่าย
  • กระจายตัวในดินได้ดี
  • ต้องระวังการฟุ้งกระจายเวลาใช้
  1. มูลค้างคาวอัดเม็ด
  • ผ่านการแปรรูปมากที่สุด โดยนำมูลบดมาอัดเป็นเม็ด
  • สะดวกในการใช้งานและขนส่ง
  • ละลายช้ากว่าแบบผง ปลดปล่อยธาตุอาหารแบบค่อยเป็นค่อยไป
  • เก็บรักษาง่าย ไม่ฟุ้งกระจาย
  • ราคาสูงที่สุดในบรรดามูลค้างคาวทั้งหมด

นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งตามแหล่งที่มาของมูลค้างคาว ซึ่งจะมีปริมาณธาตุอาหารต่างกัน เช่น

  • มูลค้างคาวจากถ้ำหินปูน – มักมีฟอสฟอรัสสูง
  • มูลค้างคาวจากถ้ำหินแกรนิต – มักมีโพแทสเซียมสูง

คุณภาพของมูลค้างคาวจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • ชนิดของค้างคาว
  • อายุของมูล
  • สภาพแวดล้อมในถ้ำ
  • กระบวนการเก็บและแปรรูป

คุณสมบัติและประโยชน์

  • มูลค้างคาวมีธาตุไนโตรเจนสูง (8-12%) ฟอสฟอรัส (8-15%) และโพแทสเซียม (1-2%)
  • ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความอุดมสมบูรณ์
  • กระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช ทำให้ใบเขียวสด แตกยอดดี
  • ช่วยเร่งการออกดอกออกผล เพิ่มผลผลิต
  • ปลอดภัยต่อพืช ไม่มีสารเคมีตกค้าง

วิธีใช้งาน

  1. การใส่ลงดินโดยตรง: หว่านรอบโคนต้น แล้วพรวนดินกลบ ใช้ 20-50 กรัมต่อต้น
  2. การละลายน้ำ: ละลาย 1 กิโลกรัมต่อน้ำ 20 ลิตร รดโคนต้นหรือฉีดพ่นทางใบ
  3. ควรใส่ทุก 1-2 เดือน หรือตามความเหมาะสม

การเก็บรักษา

  • เก็บในที่แห้ง อากาศถ่ายเทดี ไม่โดนแดดหรือฝนโดยตรง
  • ควรเก็บในภาชนะปิดมิดชิด เช่น ถุงพลาสติกหนา หรือถังพลาสติกมีฝาปิด
  • หากเก็บถูกวิธีสามารถเก็บได้นาน 1-2 ปี
  • ควรสังเกตความชื้นและกลิ่นผิดปกติ หากพบให้แยกออกทันที
Weight 1 kg
ปริมาณ

1 ลิตร